หลายท่านอาจสงสัยว่าจะเลือกซื้อคอลลาเจนอย่างไร? มีให้เลือกมากมายเต็มไปหมดเลย จนบางทีอาจจะเลือกกันไม่ถูก วันนี้เราจะมีข้อแนะนำ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าคอลลาเจนแบบไหนเหมาะสำหรับเรา ก่อนอื่นเลยไปดูรายละเอียดของคอลลาเจนแต่ละตัวกันก่อนตามภาพด้านล่างนี้เลย

เลือกตามรูปแบบ เม็ด หรือ ผง?
คอลลาเจนจะมีรูปแบบอยู่ 2 ประเภทใหญ่คือ แบบเม็ดหรือแคปซูล และแบบผงไว้ชงดื่ม ซึ่งแต่ละคนก็สะดวกในการทานแต่ละอย่างแตกต่างกันไป เพราะบางคนอาจคิดว่าแบบเม็ดสะดวกกว่า ทานง่ายไม่ต้องคอยชง แต่บางคนอาจคิดว่าทานแบบเม็ดยาก ดื่มเอาง่ายกว่า ในส่วนนี้เลือกในสิ่งที่คิดว่าเราสะดวกจะดีกว่า
แล้วเราควรรับประทานคอลลาเจนในปริมาณเท่าไหร่ดี?
สำหรับผู้ที่อายุมากกว่า 25 ปีแล้ว ร่างกายจะเริ่มมีการผลิตคอลลาเจนลดลง ฉะนั้นการรับประทานคอลลาเจนที่แนะนำจะอยู่ที่ปริมาณประมาณ 4000-8000 มก./วัน
จริงหรือเปล่าที่คอลลาเจนแบบผง ร่ากายจะดูดซึมได้ดีกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด?
เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันอยู่บ่อยๆ ว่าแบบผงนั้น ร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ดีกว่าแบบเม็ด ซึ่งไม่ได้มีบทวิจัย หรือหลักฐานอะไรมารองรับในจุดนี้ที่ชัดเจน และด้วยแต่ละคนเองก็มีความสามารถในการดูดซึมที่แตกต่างกันออกไปด้วย ฉะนั้นหากกำลังพิจารณาว่าการเลือกแบบเม็ดหรือผง เพราะปัจจัยเรื่องการดูดซึมนั้นคงไม่ได้มีนัยสำคัญมากนัก ข้อแนะนำคือ เลือกที่สะดวกกับเราจะดีกว่า เพราะต้องทานไปกันอีกหลายวันเลย
คอลลาเจนแบบผงจะมีสารอาหารได้มากกว่าคอลลาเจนแบบเม็ด?
กรณีนี้ถูกส่วนหนึ่ง แต่ทั้งนี้เองก็ต้องดูด้วยว่าปริมาณที่ให้ทานในแต่ละวันของแบบผง เทียบกับแบบเม็ดนั้นเป็นอย่างไรด้วย
การที่แบบผงมีสารอาหารมากกว่านั้น เพราะว่าการทานนั้นจะเป็นการชงดื่ม ซึ่งจากปริมาณดังกล่าวเองจะพบว่าสามารถทานในปริมาณที่มากได้ หากเทียบกับแบบเม็ด เพราะถ้าแบบเม็ดใส่สารอาหารมากๆ ก็จะทำให้เม็ดใหญ่ขึ้น (ทานยากขึ้นอีก) หรือต้องทำให้ทานจำนวนเม็ดมากขึ้น
ปริมาณ mg หรือ มก. ที่ระบุไว้ คืออะไร?
โดยปกติแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีการแสดงปริมาณคอลลาเจนแตกต่างกันไป ข้อแนะนำคือให้ดูที่ฉลากว่าเป็นปริมาณต่อครั้งรับประทาน (per serving) หรือ ต่อเม็ด (per tablet) เพราะในตลาดเองอาจพบว่าบางยี่ห้อระบุว่ามี 200000 mg (สองแสน) ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็น ต่อเม็ด เพราะจะถือว่าเป็นคอลลาเจนเม็ดที่หนักมาก (2 ขีดเลยทีเดียว) และแท้จริงแล้วนั่นคือ ปริมาณทั้งกระปุก ไม่ใช่ต่อครั้งการทาน
ตัวอย่างเช่น NeoCell Super Collage+C จะระบุที่หน้าฉลากว่า 6000mg ในกรณีนี้คือต่อครั้งการรับประทานต่อวัน หรือคือ ต่อ 6 เม็ด และหากคิดเป็นต่อเม็ดแล้ว ก็คือ เม็ดละ 1000mg นั่นเอง เป็นต้น
ตอลลาเจนจากอะไร แตกต่างกันอย่างไร?
สารอาหารเพิ่มเติมอื่นๆ
Vitamin C / วิตามินซี
วิตามินซีนับเป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติหลากหลายอย่างมาก และอย่างหนึ่งเลยก็คือ การช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้ดีขึ้น เราจึงมักพบวิตามินซีเป็นส่วนผสมหนึ่งในผลิตภัณฑ์คอลลาเจน แต่ทั้งนี้เองก็สามารถทานวิตามินซีแยกได้ หรือเราก็ได้รับวิตามินซีอยู่แล้วจากการรับประทานอาหารประจำวัน
Hyaluronic Acid / กรดไฮยาลูโรนิค
Hyaluronic Acid นั้นมีคุณสมบัติที่สำคัญมากในเรื่องความงามคือ เป็นสารที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื่น และมีบทวิจัยต่างๆ มากมายรองรับ และกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า มีส่วนช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งขึ้น ลดริ้วรอย และผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น โดยจะทำงานร่วมกันกับคอลลาเจนในชั้นผิวหนังด้วย
สารอาหารอื่นๆ
แต่ละผลิตภัณฑ์ก็มีสูตรที่แตกต่างกันไป ซึ่งสารอาหารสำหรับการบำรุงผิวในโลกนี้นั้นมีมากมาย ทำให้แต่ละยี่ห้อก็มีการผสมสูตรที่แตกต่างกัน และมีจุดเด่นแตกต่างกันไปด้วย อาทิเช่น อาจมีการเสริม biotin เพื่อส่งเสริมสุขภาพเส้นผมและเล็บ หรือ CoQ10 สำหรับช่วยเรื่องของริ้วรอย เป็นต้น
คอลลาเจนแบบเม็ดสูตรเพื่อความสวยงาม เพื่อดูแลผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ ด้วยผลการศึกษาทางคลินิคและคุณภาพสูงสุดจาก NeoCell
คอลลาเจนแบบผงสูตรเพื่อความสวยงาม เพื่อดูแลผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ ด้วยผลการศึกษาทางคลินิคและคุณภาพสูงสุดจาก NeoCell
คอลลาเจนแบบเม็ดสูตรเพื่อความสวยงาม เพื่อดูแลผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ ด้วยผลการศึกษาทางคลินิคและคุณภาพสูงสุดจาก NeoCell
คอลลาเจนแบบเม็ดสูตรผสมวิตามินซี ช่วยดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้น เรียบเนียน กระชับเต่งตึง ลดริ้วรอย เหี่ยวย่น ที่มีผลการรับรองทางด้านวิทยาศาสตร์รองรับ
คอลลาเจนแบบเม็ดสูตรผสมวิตามินซี ช่วยดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้น เรียบเนียน กระชับเต่งตึง ลดริ้วรอย เหี่ยวย่น ที่มีผลการรับรองทางด้านวิทยาศาสตร์รองรับ
คอลลาเจนรูปแบบเม็ด ที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน 3 ประเภทคือ Type I,II และ III และวิตามินซี เพื่อสุขภาพของผิว ผม ข้อต่อ กระดูก และเล็บ
คอลลาเจนจากปลาทะเล พร้อมสารอาหารเพื่อดูแลสุขภาพผิวทั้งวิตามินซี กรดไฮยาลูโรนิค และอื่นๆ
คอลลาเจนรูปแบบเม็ด ที่มีส่วนประกอบมาจากปลาทะเล พร้อมสารอาหารวิตามินต่างๆ เพื่อสุขภาพของผิว ผม ข้อต่อ กระดูก และเล็บ